ข้ารักเจ้า…
ไอซอท x เฮฟเฟตัส
ถึงแม้เทพอัศวินทั้งสิบสององค์จะถือเป็นกลุ่มเดียวกัน มีประมุของค์เดียวกันอย่างหัวหน้าเทพอัศวินครีอุส แต่ใครๆก็รู้ดีว่าฝ่ายเฮมิชกับกลุ่มโคลด์บลัดมักจะเป็นอริกัน ไม่มีทางที่ทั้งสองฝ่ายจะมาปรองดองกันได้ ทุกยุคทุกสมัยเป็นแบบนี้มาตลอดหลายสิบปีหลายร้อยปี
แต่บัดนี้ บุคคลที่เขาว่ากันว่าเป็นชายที่เยือกเย็นที่สุดในกลุ่มโคลด์บลัด กลับยืนอยู่ตรงหน้าข้า ถ้อยคำที่ไม่น่าจะเป็นไปได้กลับเอื้อนเอ่ยออกมาผ่านริมฝีปากสีชมพูที่แตะแต้มอยู่บนใบหน้าขาวไร้อารมณ์ของอีกฝ่าย
ถ้อยคำที่ทำให้ข้าถึงกับเข่าอ่อน
“เฮฟเฟตัส..เจ้าไม่เชื่อข้าเหรอ?”
ข้าเม้มปากแน่น
“เจ้าพูดอะไรออกมา รู้ตัวหรือเปล่า..ไอซอท?!”
ข้าเผลอปล่อยอาวุธตกลงบนพื้น ไอซอทจึงค่อยๆเดินเข้ามาเก็บอาวุธและยื่นมันให้ข้า ใบหน้าคมของเขายังจ้องมองข้า ใบหน้าไร้อารมณ์ที่เขาชอบทำบ่อยๆยังคงปรากฏเด่นชัดอยู่บนใบหน้าเขาตอนนี้ ข้าเอื้อมมือไปรับอาวุธมาถือไว้แน่นกลัวว่าจะหล่นลงไปอีก ก่อนจะพูดซ้ำ
“เจ้าต้องละเมอแน่ๆที่พูดอะไรแบบนี้..เฮอะ..จะเป็นไปได้ยังไง!”
ข้าสบถเบาๆก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น แต่หางตายังจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าไร้อารมณ์ของไอซอท
นานราวสองนาทีที่ไอซอทไม่ได้พูดอะไรอีกเลย แต่กลับจ้องข้าอยู่นั่นล่ะ ข้าจึงทนไม่ไหวระเบิดเข้า!
“เจ้าต้องการอะไรกันแน่น่ะไอซอท! ข้าไม่มีเวลาว่างมานั่งเล่นกับเจ้าหรอกนะ!!”
วินาทีนั้น แววตาของไอซอทเริ่มเจือความเศร้า ข้าใจหายวูบ
“ข้าขอโทษ…”
เสียงนุ่มๆเอ่ยออกมาหลังจากที่เงียบไปนาน ก่อนเจ้าตัวจะเดินหนีหันหลังจากไปหลังจากที่พูดจบ
เย็นวันนั้นข้ากับไทรอนไปจัดการกับอมนุษย์ที่ออกมาเผ่นผ่านในเมืองลีฟบัดตามคำสั่งของครีอุส ไทรอนมีโล่ปราการที่สามารถปกป้องยามที่ข้ากำลังต่อสู้ได้ อมนุษย์ในคราวนี้ช่างแข็งแกร่งจริงๆ
“เฮฟเฟตัส…วันนี้เจ้าเป็นอะไร ทำไมถึงดูอ่อนแรงอย่างนี้ ย๊ากกก!”
ไทรอนหันมาตะโกนใส่ข้า ก่อนจะหันไปฟาดโล่เหล็กใส่อมนุษย์อีกตัว ตอนนั้นเองข้าเผลอพลาดพลั้งจนอมนุษย์ที่ใช้มือขนาดใหญ่ของมันฟาดเข้าตรงหน้าท้องของข้าจนจุกลงไปนั่งกองบนพื้น
ข้าเผลอนึกถึงเรื่องเมื่อตอนบ่ายขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้…
แค่ถ้อยคำสามคำที่เอ่ยออกมาจากปากของไอซอท กลับทำให้ข้าคลุ้มคลั่งขนาดนี้ มันเพราะอะไรกันนะ?
ไทรอนหันไปจัดการกับอมนุษย์ตัวสุดท้ายจนมันล้มลง ก่อนจะเดินเข้ามาพยุงข้า
บรรยากาศตอนนี้เงียบสนิทเมื่อศัตรูพลาดท่าจนหมดสิ้น ข้าเดินกระเผลกโดยมีไทรอนพยุงเอาไว้
“เจ้าไม่เป็นตัวของตัวเองเลย…”
ไทรอนเอ่ยออกมาหลังจากที่เงียบไปนาน ตอนนี้เราสองคนใกล้จะเดินถึงตำหนักเทพอัศวินแล้วล่ะ
“ขอโทษที ข้าปวดหัวนิดหน่อยน่ะ”
ไทรอนหยุดเดิน พลางจ้องมองข้าอย่างไม่เข้าใจ
“ไม่ยักรู้ว่าคนอย่างเจ้าจะมีเรื่องให้ปวดหัวด้วย”
ข้าพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะเร่งให้ไทรอนเดินต่อไปเรื่อยๆจนมาถึงทางเข้าตำหนัก ที่มีคนพลุกพล่านมากกว่าปกติ
“เจ้าเป็นอย่างไรบ้างเฮฟเฟตัส ไทรอน…ขอให้องค์มหาเทพแห่งแสงสว่างจงคุ้มครองพวกเจ้า…ขอให้..”
“พอเถอะครีอุส เฮฟเฟตัสบาดเจ็บสาหัสพอดู เจ้าไม่ต้องพล่ามมากหรอก รีบรักษาให้เขาก่อนเถอะ” ไทรอนตัดบท
ครีอุสพยักหน้าก่อนจะช่วยพยุงแขนอีกข้างของข้า พวกเขาพาข้ามายังห้องนอนส่วนตัวของข้าในที่สุด
“เย็นป่านนี้แล้ว ที่ตำหนักมีอะไรเรอะ”
ข้าถอนหายใจพลางทิ้งตัวลงนอนบนเตียงเมื่อครีอุสรักษาบาดแผลของข้าเสร็จ
“องค์หญิงเล็กของเมืองข้างๆเสด็จมาน่ะ เห็นว่าจะมาขอบคุณไอซอทที่ช่วยนางไว้ในภารกิจคราวก่อน เจ้าไม่ได้ไปด้วยนี่นะ”
วินาทีนั้นจู่ๆข้าก็รู้สึกเจ็บแปลบตรงหัวใจขึ้นมา
“องค์หญิงเรอะ? แล้วไอซอทช่วยยังไง”
ครีอุสยัดพายบลูเบอรี่เข้าปากก่อนจะเคี้ยวเสียงดังไม่มีมารยาท
“ไอซอทช่วยนางจากพวกอมนุษย์น่ะ ข้าก็ไม่ค่อยรู้แน่ชัดหรอก ก็เทอร์มิสที่ไปด้วยไม่ยอมเล่าให้ข้าฟังเลยนี่นา!”
พูดถึงเทอร์มิสทีไร ครีอุสต้องแกล้งทำหน้าบูดเบี้ยวอยู่เรื่อย นั่นเขาเรียกว่างอนเรอะ
ข้าแสร้งทำเป็นไม่สนใจ ก่อนที่อาเดร์ รองหัวหน้าหน่วยเทพอัศวินครีอุสจะเข้ามา
“หัวหน้าครับ องค์หญิงต้องการพบหัวหน้าเทพอัศวินทั้งสิบสององค์น่ะครับ…เชิญหัวหน้าลงไปข้างล่าง..”
ครีอุสฉีกยิ้มน่าหมั่นไส้ก่อนจะเอ่ยว่า
“ได้สิ ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
ว่าแล้วก็เดินออกจากห้องไปทันที ฝ่ายอาเดร์หันมาโค้งคำนับให้ข้า ก่อนจะค่อยเดินตามครีอุสไป แต่ข้าห้ามไว้เสียก่อน
“แล้วเจ้าไม่เชิญข้าหรืออาเดร์?”
อาเดร์มีสีหน้าลำบากใจ
“ข้าได้ยินมาว่าท่านหัวหน้าเทพอัศวินเฮฟเฟตัสได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้าเลย…”
“ข้าจะไป…”
พูดจบข้าก็เดินลงจากเตียงและมุ่งหน้าไปยังท้องพระโรงทันที
ข้าเดินปึงปังตรงไปยังที่หมาย ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปอย่างแรง ทุกคนหันมามองข้าเป็นตาเดียว
“เฮฟเฟตัส ได้ยินว่าเจ้าบาดเจ็บ!?”
เคเรสเอ่ยออกมาก่อนใครเพื่อน ข้าไม่ได้สนใจเขา แต่คนที่ข้าหันไปมองมีเพียงไอซอทคนเดียว บัดนี้ไอซอทกำลังนั่งสนทนากับองค์หญิงคนสวยอยู่ ดูเหมือนว่านางจะสนใจไอซอทเป็นพิเศษด้วยซ้ำ ไม่งั้นนางไม่เรียกไอซอทไปคุยใกล้ขนาดนั้นหรอก
ข้าเดินมานั่งข้างไทรอนทันทีที่รู้สึกว่าตนมองพวกนั้นสองคนนานเกินไปแล้ว
“ยินดีที่ได้พบกันนะ ท่านหัวหน้าเทพอัศวินเฮฟเฟตัส..”
เสียงหวานเจื้อยแจ้วเอ่ยออกมา ข้าลุกขึ้นยืนโค้งคำนับให้อย่างไม่เต็มใจ ก่อนจะกระแทกเก้าอี้นั่งลงตามเดิม
“..เพราะฉะนั้นข้าถึงต้องมาที่นี่ด้วยตัวเอง ท่านพ่ออยากพบท่านมากนะ ท่านหัวหน้าเทพอัศวินไอซอท..”
ข้าเหลือบไปมองไอซอทที่ยังปั้นยิ้มอยู่
เฮอะ! ไหนว่าคุยกับใครไม่เก่งไง!!
“..พอดีว่าช่วงนี้ข้ามีภารกิจต้องออกไปด้านนอกกับหัวหน้าเทพอัศวินครีอุส ข้ามิได้ต้องการจะ…”
“ไม่เป็นไร! ไอซอทที่รัก ข้ามีไทรอนกับเฮฟเฟตัสไปด้วยแล้ว เจ้าเดินทางไปกับองค์หญิงเถิด”
ครีอุสสะบัดผมก่อนจะเอ่ยเป็นงานเป็นการ ข้าถอนหายใจเสียงดังจนเทมเพสและไทรอนที่นั่งข้างๆได้ยินเข้า
“..เจ้าบาดเจ็บก็กลับไปพักผ่อนซะสิ ไม่ต้องอดทนหรอก”
ไทรอนกระซิบใส่หูข้า ข้ายักไหล่อย่างไม่สนใจ
“ช่างข้าเถอะ ข้าหายดีแล้ว!”
ข้าตอบกลับไปเบาๆ
และหลังจากนั้นบทสนทนาขององค์หญิงก็เป็นเรื่องที่ไอซอทช่วยนางจากเหล่าอมนุษย์ รวมทั้งขอบคุณเหล่าเทพอัศวินทุกคนด้วยถ้อยคำวกไปวนมาอย่างยาวนาน โดยมีไอซอทนั่งพยักหน้าหงิกๆเป็นระยะๆ
“..ท่านพ่ออยากพบท่านมากจริงๆ ท่านต้องเสด็จไปให้ได้นะเพคะ..”
ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยคำพูดเลี่ยนหูจนเทมเพสแอบสบถเบาๆว่าอิจฉาไอซอทสุดๆ ข้านั่งเอามือกอดอกฟังเป็นเวลานานก็เริ่มทนไม่ไหว ลุกขึ้นยืนทันทีจนเก้าอี้ล้มลงดังตึง!
ทุกคนมองข้าเป็นตาเดียว
“ผีเข้ารึ? ทำไมเจ้าถึงอยู่ไม่นิ่งเลย” เทมเพสกระซิบ ข้าเม้มปากแน่น ไม่สนใจคำพูดเขา
“..พอดีข้านึกขึ้นได้ว่ายังมีงานเอกสารที่จะต้องสะสางก่อนวันพรุ่งนี้ ข้ารีบกลับก่อนละ ลาก่อนองค์หญิง ขออภัยที่อยู่ร่วมสนทนาจนจบมิได้…”
ข้าเอ่ยแค่นเสียง ก่อนจะผลุนผลันออกจากห้องไป
เมื่อกลับถึงห้อง ข้ากระแทกประตูปิดลงอย่างแรง ก่อนจะวิ่งขึ้นไปนอนบนเตียง ซุกหน้าลงกับหมอนใบใหญ่ทันที
ปกติไอซอทเป็นคนเงียบๆและเยือกเย็น เขาแทบไม่ได้คุยกับข้าด้วยประโยคยาวๆเลยสักครั้ง รวมทั้งเรื่องเมื่อตอนบ่ายด้วย กะอีแค่เขาไปช่วยองค์หญิงจากพวกอมนุษย์ตัวกระจ้อยร่อยแค่นั้น อุตส่ามาขอบคุณถึงที่นี่ แถมเจ้าตัวยังนั่งนิ่งไปยอมเดินหนีเหมือนทุกครั้งอีกต่างหาก
เจ้าทำแบบนี้หมายความว่ายังไง!?
แล้วเรื่องเมื่อตอนบ่ายล่ะ!
เจ้า…เจ้าลืมไปแล้วเหรอ..?
คิดได้ดังนั้น น้ำตาก็เอ่อล้น ก่อนจะหยดแหมะลงบนหมอนจนเปียกชุ่ม ก่อนที่สติข้าจะเริ่มเลือน…
.
.
.
.
.
.
.
“ข้ารักเจ้า….”
ข้านิ่งค้างอยู่อย่างนั้น เมื่อใบหน้าเยือกเย็นของใครบางคนเอ่ยต่อหน้าข้า
ใบหน้าเยือกเย็นที่เคยมี บัดนี้กลับกลายเป็นใบหน้าที่ดูใจดีและอบอุ่นจนข้าเผลอไผลมอง ข้าเอื้อมมือไปข้างหน้าไอซอทเพื่อต้องการจะสัมผัสใบหน้าของเขา ก่อนที่เขาจะยิ้มและกุมมือของข้าเอาไว้แน่น
ไอซอทกุมมือข้าเอาไว้ชั่วครู่ก็ยกมือข้าขึ้นไปแตะใบหน้าเขา
รู้สึกร้อนผ่าวบริเวณแก้มอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“เฮฟเฟตัส…เจ้าเชื่อข้าแล้วเหรอ?”
ข้าเม้มปากแน่น แต่ยังคงจ้องมองใบหน้าอบอุ่นนั่นอย่างมีความสุข
“ไม่..ข้าไม่เชื่อหรอก..”
น่าแปลกที่น้ำเสียงของข้ากลับดูอ่อนลงมาก ไม่ได้แข็งกระด่างเหมือนเมื่อตอนบ่าย
ท่าทีของอีกฝ่ายเมื่อได้ยินข้าปฏิเสธ ยังคงเป็นเหมือนเดิม ก่อนที่ไอซอทค่อยบรรจงจุมพิตแผ่วเบาลงบนหลังมือของข้า ข้าชักมันกลับอย่างรวดเร็ว
“เจ้า…เจ้ามัน…”
“เจ้าบาดเจ็บหนัก เพราะฉะนั้นพักผ่อนเถอะ”
เมื่อร่างสูงพูดจบก็ลุกขึ้นยืนและหมุนตัวจะเดินออกจากห้อง
“เดี๋ยว..ไอซอท!”
ถ้านี่เป็นความฝัน..ขอให้ข้า…ขอให้เขาอยู่ข้างกายข้าด้วยเถอะ…ถึงแม้จะเป็นไปได้แค่ในความฝัน ข้าไม่ได้ฝันดีแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ..องค์มหาเทพแห่งแสงสว่างเป็นพยาน..ขอให้ข้าฝันแบบนี้ตลอดไปด้วยเถอะ ขอให้ในฝันของข้ามีไอซอทที่ยิ้มและอยู่เคียงข้างข้าแบบนี้ตลอดไปด้วยเถิด ….
น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้างของข้า
“ขอเพียงแค่ในความฝัน…ถึงในความเป็นจริงเจ้าจะต้องดูแลองค์หญิงองค์นั้นตลอดไป ถึงในความเป็นจริงข้าจะไม่มีเจ้าอยู่เคียงข้างข้า ไม่มีมืออบอุ่นที่คอยกุมมือข้าทุกวัน ไม่มีดวงตาอบอุ่นที่ทอดมองข้าตลอดเวลา ถึงในความเป็นจริงจะไม่มีเจ้าอยู่ แต่ข้าขอแค่นั้น…ขอให้เจ้าอยู่กับข้าตลอดไป…อยู่เคียงข้างข้าตลอดไป แค่ในความฝัน…..ฮึก..ไอซอท…”
ไอซอทชะงักฝีเท้า ก่อนจะหันมายิ้มให้ข้าอีกครั้ง แต่ข้ามองไม่ชัด เพราะบัดนี้ในดวงตาข้ามันเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา ไอซอทเดินมานั่งข้างเตียงข้า มือใหญ่เกลี่ยน้ำตาบนแก้มข้าออกไปจนเกลี้ยง ก่อนจะก้มลงจุมพิตข้าแผ่วเบาบนหน้าผาก
ข้าพึมพัมแผ่วเบาอย่างมีความสุข
“ฝันดีจัง….”
ก่อนที่มือของเขาจะค่อยๆสัมผัสแก้มข้าแผ่วเบา…มือใหญ่ที่ปกติมักจะสวมถุงมือสีขาวเป็นประจำ บัดนี้ถูกปลดออก มือเปลือยเปล่าสีขาวจัดค่อยๆสัมผัสแก้มข้าแผ่วเบาจนข้ารู้สึกจักจี๋ ข้าจับมือนั้นเอาไว้ไม่ให้ไปไหน แล้วหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข
ก่อนที่ไอซอทจะกระซิบข้างหูข้าว่า…
“ไม่ใช่ความฝันสักหน่อย…..”
“หือ?”
ข้าเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ เหลียวมองไปรอบตัว ก็พบว่าตัวข้านอนอยู่บนเตียงของตัวเอง มีไอซอทนั่งบนขอบเตียง มือของเขายังถูกข้ากุมเอาไว้ เมื่อทุกอย่างกลับเป็นปกติ โต๊ะเก้าอี้ทุกอย่างปรากฏเด่นชัดในสายตาข้า ข้าเผลอปล่อยมือไอซอทอย่างรวดเร็ว และลุกขึ้นนั่งทันที
“เจ้า…นี่เจ้าเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่!”
ไอซอทยิ้มก่อนจะเอ่ย
“ข้าวิ่งตามเจ้ามาน่ะ ตะกี้เจ้างอนข้าแล้ววิ่งออกมาจากท้องพระโรงนี่”
“เจ้าว่าไงนะ!? เจ้าวิ่งตามข้ามา…แล้ว..”
“ข้าก็เห็นเจ้านอนอยู่บนเตียง ข้าเลยเข้ามาใกล้เจ้า…แล้วก็อดจะสัมผัสแก้มเจ้าไม่ได้…แล้วข้า..”
“พอๆ พอแล้ว”
ข้าตะคอกก่อนจะจับแก้มตัวเองเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
มันไม่ใช่ความฝันเหรอ…ไอซอทตามข้ามาในห้อง เขาวิ่งตามข้าเข้ามา..แล้วเขาก็อยู่เคียงข้างข้ามาตลอดจนบัดนี้เลยเหรอ เป็นไปได้ยังไง!?
“แต่เจ้า..เจ้าจะต้องดูแลองค์หญิงคนนั้น เจ้าไม่น่าจะ…”
ข้าตะโกนเสียงดัง ไอซอทยิ้มละไม
“ข้ายังไม่ได้พูดเลยว่าข้าจะอยู่ดูแลองค์หญิง…”
ถึงไอซอทจะพูดมากกว่าปกติในวันนี้ แต่เขาก็ยังถามคำตอบคำอยู่ดี
“ไม่รู้ล่ะ อีกเดี๋ยวจะต้องเดินทางแล้วนี่ รีบไปเตรียมตัวเถอะ อย่ามายุ่งกับข้า…”
“เจ้าเพิ่งบอกให้ข้าอยู่เคียงข้างเจ้าเองนะ นี่เจ้าจะไล่ข้าไปอีกแล้วเหรอ?”
น้ำเสียงของไอซอทตัดพ้อ นัยน์ตาสีฟ้าเจือไปด้วยความเศร้า ฉับพลันนั้นข้าใจหายวูบ น้ำตาปริ่มอีกแล้ว มันทำให้ข้ามองไอซอทไม่ชัดเลย ข้าใช้หลังมือปาดน้ำตาออก ก่อนจะเงยหน้ามองไอซอทอีกครั้ง
ชั่วเสี้ยววินาทีที่ข้าเช็ดน้ำตา ไอซอทก็สวมกอดข้าไว้หลวมๆ ข้าดิ้นขลุกขลักไปมาหลายครั้ง แต่ไอซอทก็ยังไม่ยอมปล่อย ข้าถึงยอมให้อีกฝ่ายถือวิสาสะกอดข้าอยู่อย่างนั้น
“ไม่ว่าจะเป็นความฝันหรือในโลกแห่งความเป็นจริง…อิชลานคนนี้ขอสาบานต่อทวยเทพทั้งปวง ว่าจะอยู่เคียงข้างเจ้าตลอดไป อยู่เคียงข้างชาคส์คนที่ข้ารักตลอดไป…”
เสียงนุ่มเอ่ยอยู่ข้างหูข้า ข้าเขินจนทำอะไรไม่ถูก เมื่ออีกฝ่ายโน้มหน้าเข้ามาใกล้ แล้วบรรจงจุมพิตลงบนริมฝีปากข้าแผ่วเบา…แต่เนิ่นนาน……
.
.
.
.
.
.
.
.
ข้ารักเจ้า….ข้ารักเจ้า…
เป็นคำสามคำที่ข้าจะได้ยินทุกครั้งยามตื่น ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน อิชลานคนนั้นยังคงอยู่เคียงข้างข้า ถึงแม้เราจะเกษียนอายุไปแล้ว แต่ข้าก็ยังได้ยินคำบอกรักของเขาทุกวัน….
ขอแค่เขายังอยู่เคียงข้างข้า ถึงจะไม่ได้บอกรักทุกวัน ข้าก็ยินดี ข้ายินดีที่จะอยู่เคียงข้างเขาไปตลอดกาล…
…ข้าก็รักเจ้า..อิชลาน…
———————————————————————————————-
THE END
Talk : เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่แต่งให้กับ LSK ทั้งๆที่คู่ที่ชอบมากที่สุดคือ เทอร์มิสxครีอุส แต่พออ่านเล่ม 4 และขุดค้นหาภาพในเรื่องมานั่งดู ก็ดันไปเจอภาพคู่นี้เข้า ไม่รู้มีคนชอบกันไหม แต่เราชอบนะ เฮฟเฟตัสจะออกแนวมุทะลุหน่อยๆ แต่ไอซอทจะใจเย็น เยือกเย็น ไม่รู้ทำไมเราชอบคู่ที่มันต่างกันสุดขั้ว แต่ดันมารักกันได้ ยังไงก็อ่านแล้วติชมด้วยนะคะ แล้วก็ภาษาในเรื่องรวมทั้งการบรรยายสถานที่ในเรื่องยังดูขัดๆอยู่บ้าง ผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยแล้วกัน ;D